วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560

Part1 King Arthur and the Knights of the Round Table ตำนานกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม

สวัสดีค่ะ งานแปลที่จะลงบล็อกในวันนี้ของเราคือ...!!! 
กษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม
นี่เป็นการแปลเรื่องสั้นที่ค่อนข้างยาวมากๆ ในความรู้สึกเราค่ะ(ไม่งงใช่มั้ยเอ่ย :P)
ตื่นเช้ามาไม่ทำไรเปิดคอมนั่งแปลให้ได้ตามแต่ละบท เพราะเดี๋ยวอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง 
ระหว่างที่แปลเรื่องนี้อยู่ ตัวเราก็จิ้นถึงภาพยนตร์อัศวินนักรบ
ที่คล้ายกับฉากหนังฝรั่งยุคโบราณ-ยุคกลาง แปลไปก็ย้อนยุคไปค่ะ (555)
ยังไงก็ขอให้เพลิดเพลินไปกับการอ่านนะคะ

King Arthur
and
the Knights of the Round Table

ยืมรูปมาจาก http://www.celticlifeintl.com/ ค่ะ



😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶😶


บทนำ

พวกเขาได้เดินทางมาที่แห่งนั้นบริเวณหน้าโบสถ์ ขณะที่เซอร์เอคเทอร์เสียบดาบไว้บนหินดังเดิม
"ดึงมันออกสิ" เขาบอกอาเธอร์
อาเธอร์จึงดึงดาบออก มันถูกดึงออกมาง่ายราวกับดึงมีดทำครัวออกจากเนยแข็ง เซอร์เอคเทอร์เห็นดังนั้น แล้วเข้าไปแตะมืออาเธอร์
"เจ้าคือกษัตริย์ของเรา" เขาพูด
มีเพียงกษัตริย์องค์ถัดไปเท่านั้นที่สามารถดึงดาบออกจากหินได้ ผู้คนมากมายได้พยายามที่จะทำเช่นเดียวกัน แต่เด็กหนุ่มอาเธอร์ กลับสามารถดึงมันออกมาได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์แล้ว แต่...
เขาจะเป็นกษ้ตริย์ที่ดีได้หรือ?
เขาจะเป็นที่รักของประชาชนหรือไม่?
แล้วชีวิตของเขาจะลงเอยด้วยความสุขหรือทุกข์กันแน่?
เรื่องเล่าของกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลมนั้น เป็นเรื่องที่เก่ามากๆ ผู้คนรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นกษัตริย์แห่งบริเทนในระหว่างปี 400-600 พระองค์ต่อสู้กับพวกแซ๊กซอนที่มาจากยุโรปเหนือ และตอนหลังก็ได้รับการสันนิษฐานว่ากษัตริย์องค์นั้นคือ อาเธอร์ คาดว่าพระองค์น่าจะอยู่ในเวลส์หรือไม่ก็เมืองโซเมอร์เซ็ท หรือคอร์นวอลซึ่งเป็นเมืองทางทิศตะวันตกของเกาะอังกฤษ
หลายคนได้เขียนเรื่องเล่าเกี่ยวกับกษัตริย์องค์นี้ในอีกร้อยปีให้หลัง แต่มันก็เป็นเรื่องราวที่พวกเขาแต่งขึ้นให้น่าสนใจและน่าตื่นเต้น แล้วในเวลานั้นผู้คนได้หลงใหลอยู่กับเวทย์มนต์ เหล่าอัศวิน และเหล่าหญิงงามของพวกเขา  ดังนั้น ตัวละครในเรื่องราวเหล่านี้ จึงต่อสู้กันด้วยดาบและเวทย์มนต์คาถา
ใครเป็นคนแรกที่แต่งเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา?
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ บ้างก็ว่าประชาชนในฝรั่งเศสและบริเทนได้เขียนเรื่องราวของกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินของเขาขึ้น แต่ทว่าแทบไม่มีหนังสือเล่มใดที่จะเล่าเรื่องราวออกมาเหมือนกันเลย
อย่างไรก็ดี เซอร์โธมัส มาโลรี่ (1484) ผู้โด่งดัง เขาใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับกษัตริย์อาเธอร์ของชาวฝรั่งเศส นำมาเขียนและเรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษ บอกเล่าเรื่องราวนั้นไว้ในหนังสือเล่มนี้แล้ว
ต้นฉบับจากบล็อก https://funfunfairytalesbynongmee.blogspot.com/ เท่านั้นค่ะ

บทที่ 1 อาเธอร์และเมอร์ลิน

เรื่องราวที่เก่าแก่นี้เริ่มต้นด้วยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ นามว่า อูเธอร์ ผู้ทรงคุณธรรม กษัตริย์ทางทิศใต้ของบริเทน พื้นที่แห่งนี้มีอันตรายทุกหย่อมหญ้า แต่ในอาณาจักรของอูเธอร์นั้น ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่มีการสู้รบหรือแม้แต่อันตรายใดๆ
อูเธอร์ได้ตกหลุมรักหญิงงามคนหนึ่ง นามว่า อิกเกรน และต้องการที่จะแต่งงานกับนาง แต่นางไม่ได้รักพระองค์ กษัตริย์อูเธอร์จึงเศร้าเสียใจมาก
เมอร์ลิน ผู้ฉลาดหลักแหลม และเชี่ยวชาญในเวทย์มนต์คาถา สามารถแปลงกายเป็นนกและสัตว์ต่างๆ และใช้เวทย์มนต์พลางตาได้ เขามักที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือผู้คนด้วยเวทย์มนต์ของเขาเสมอ
วันหนึ่งพ่อมดก็ได้มาหากษัตริย์อูเธอร์
ท่านสามารถที่จะแต่งงานกับอิกเกรนได้ เขาพูด
ข้าจะช่วยท่าน หากแต่ท่านต้องมอบบุตรของท่านให้แก่ข้า
.                  “ตกลงกษัตริย์อูเธอร์ตอบ
แล้วเขาก็ได้แต่งงานกับอิกเกรนสมความปรารถนา ต่อมาเขาก็มีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน และให้ชื่อแก่เขาว่า อาเธอร์
เมื่ออาเธอร์อายุครบ 3 ขวบ ก็มีชายชราคนหนึ่งมาที่หน้าประตูวังของกษัตริย์ ชายชราคนนั้นก็คือเมอร์ลินนั่นเอง แล้วกษัตริย์อูเธอร์ก็อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนและส่งให้แก่เมอร์ลิน จากนั้นเมอร์ลินก็อุ้มเด็กน้อยออกมาจากปราสาท แล้วนำอาเธอร์วัย 3 ขวบ ไปมอบให้แก่อัศวินที่เก่งกาจคนหนึ่ง นามว่า เซอร์เอคเธอร์ ด้วยเหตุนี้ อาเธอร์จึงได้มาอาศัยอยู่กับเซอร์เอคเทอร์และเคย์ ลูกชายของเขา
ต้นฉบับจากบล็อก https://funfunfairytalesbynongmee.blogspot.com/ เท่านั้นค่ะ
หลังจากนั้นไม่นานกษัตริย์อูเธอร์ก็ล้มป่วย และอาการของพระองค์ไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย แล้วพระองค์ก็เรียกหาพ่อมดเมอร์ลิน เพราะว่าอยากจะคุยกับเขาเรื่องอนาคตของอาณาจักรนี้ เมอร์ลินมาตามคำขอ และฟังสิ่งที่กษัตริย์บอกแก่เขา
"ข้ารู้ว่าข้าอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว" กษัตริย์อูเธอร์พูด
แล้วใครจะเป็นผู้สืบบัลลังก์ต่อจากข้า หรือ?”
ท่านได้โปรดเรียกตัวอัศวินและขุนนางทั้งหมดมาเถิดเมอร์ลินบอกแก่กษัตริย์ แล้วบอกพวกเขาถึงบุตรชายของท่าน
บุตรชายของข้า... อาเธอร์ จะเป็นผู้เดียวที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์... ต่อจากข้า
กษัตริย์อูเธอร์บอกแก่ประชาชนของเขาก่อนที่จะสิ้นใจ ทว่าผู้คนที่มีอำนาจมากมายต่างหมายปองที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ ดังนั้นอัศวินและมหาบุรุษเก่งกาจมากมายเริ่มที่จะต่อสู้กันเอง จนทำให้อาณาจักรแห่งนี้ไร้กษัตริย์องค์ใหม่เป็นเวลานาน
ต้นฉบับจากบล็อก https://funfunfairytalesbynongmee.blogspot.com/ เท่านั้นค่ะ
ในช่วงเวลาที่อาเธอร์โตเป็นหนุ่มแล้วนั้น เมอร์ลินก็ได้เดินทางไปที่ลอนดอน เพื่อเข้าพบอาร์คบิชอป
ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของโบสถ์
เรียกเหล่าอัศวินมาที่ลอนดอนเสีย แล้วเราจะได้พบกับกษัตริย์องค์ใหม่เมอร์ลินบอกอาร์คบิชอป
เมื่ออัศวินมากมายมาถึงลอนดอน พวกเขาก็ได้พบกับโบสถ์ใหญ่ยักษ์ และอาร์คบิชอปก็ออกมาพูดกับทุกคน หลังจากนั้นได้ให้พวกเขาออกมาข้างนอก แล้วพวกเขาก็พบเห็นบางอย่างที่แปลกประหลาดอยู่หน้าโบสถ์ มันคือก้อนหินใหญ่มหึมาที่มีดาบเล่มใหญ่สวยงามปักอยู่ แสงอาทิตย์ต้องไปที่คมดาบนั้น ทำให้มันดูเต็มไปด้วยพลังอำนาจ อัศวินทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้น และเริ่มที่จะพูดถึงสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ดาบเล่มนั้นมาจากไหนกัน?”
มันไปอยู่อย่างงั้นได้ไง?”
ใครเอาหินมาไว้ตรงนี้? เราไม่เห็นใครเลย แล้วใครเป็นคนที่ปักดาบไว้บนนั้น?”

บนหินสลักไปด้วยคำพูดว่า:

มีเพียงกษัตริย์
เท่านั้นที่สามารถดึงดาบออกจากหินได้

อัศวินทุกคนพยายามที่จะดึงดาบออกจากก้อนหิน แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถดึงดาบออกจากหินได้ พวกเขาดึงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ดาบขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
กษัตริย์ของพวกเราไม่อยู่ที่นี่อาร์คบิชอปพูดขึ้น
แต่ข้าก็รู้ดีว่าพวกเราจะต้องตามหาพระองค์จนเจอ
อัศวินทั้งสิบ(Ten knights) ยืนนิ่งและมองไปที่หินก้อนนั้น... อาร์คบิชอปเชิญชวนผู้คนมากมายในอาณาจักรมาที่กรุงลอนดอนเพื่อการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้
การต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ ผู้คนต่างต่อสู้กันบนหลังม้าด้วยดาบในมือพวกเขา และจะมีเพียงอัศวินผู้ยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่ได้กุมชัยชนะ
กษัตริย์องค์ใหม่อาจมาในการต่อสู้นี้ก็เป็นได้อาร์คบิชอปครุ่นคิด
เซอร์เอคเทอร์ก็ได้เดินทางไปที่งานจัดการต่อสู้นั้น พร้อมกับลูกชายของเขาทั้งสองคน คือ เซอร์เคย์ และเด็กหนุ่มอาเธอร์ที่อายุได้ 16 ปีพอดี ทั้งอาเธอร์และพี่ชายของเขาต้องการที่จะเข้าร่วมการต่อสู้กับอัศวินคนอื่นๆ แต่เซอร์เคย์ไม่ได้นำดาบมาด้วย อาเธอร์ผู้เป็นเด็กหนุ่มที่มีใจเอื้อเฟื้อนั้น อยากจะช่วยเหลือพี่ชายของเขา
มีดาบปักอยู่บนหินข้างนอกโบสถ์ ข้าเห็นมันตอนผ่านเข้ามา ข้าจะไปเอามันมา
แล้วข้าก็จะสละดาบอันเก่าของข้าให้แก่ท่านเขาบอกแก่พี่ชายของเขา
อาเธอร์เดินผละออกมาจากเซอร์เคย์และขี่ม้าไปทางโบสถ์อย่างรวดเร็ว ข้างนอกนั้นไม่มีอัศวินอยู่บริเวณหินแม้แต่คนเดียว เพราะว่าพวกเขากำลังอยู่ในสนามต่อสู้กันนั่นเอง อาเธอร์ลงจากม้าและเดินไปที่หิน โดยไม่ได้สนใจอ่านข้อความที่สลักอยู่บนหินไม่แต่น้อย อาเธอร์จับดาบไว้ในมือและดึงขึ้น ดาบถูกดึงออกจากหินอย่างง่ายดาย
เขาวิ่งกลับไปขึ้นขี่หลังม้าพร้อมกับดาบเล่มนั้น หลายนาทีต่อมา อาเธอร์ก็กลับมาหาเซอร์เคย์และเซอร์เอคเทอร์ แล้วเขาก็นำดาบเล่มนั้นออกมา
เจ้าไปเอาดาบนี้มาจากไหน?” เซอร์เอคเทอร์ถาม
แล้วเขาก็รู้เกี่ยวกับข้อความที่สลักอยู่บนหิน พวกเขาได้พากันมาที่หน้าโบสถ์อีกครั้ง ขณะที่เซอร์เอคเทอร์นำดาบกลับไปเสียบไว้บนหินดังเดิม
ดึงมันออกสิ" เขาบอกอาเธอร์
อาเธอร์จึงดึงดาบออก มันถูกดึงออกมาง่ายราวกับดึงมีดทำครัวออกจากเนยแข็ง เซอร์เอคเทอร์เห็นดังนั้น แล้วเข้าไปแตะมืออาเธอร์
เจ้าจะได้เป็นกษัตริย์ของเราเขาพูด
อาเธอร์ไม่เข้าใจสิ่งที่เซอร์เอคเทอร์พูด
ท่านพ่อหมายถึงอะไรหรือ?” อาเธอร์ถามด้วยความงุนงง แล้วเซอร์เอคเทอร์พูดขึ้นช้าๆ
ข้ารักเจ้ามาก แต่ว่า... ที่จริงข้าไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของเจ้า พ่อมดเมอร์ลินได้พาเจ้ามาหาข้าเมื่อตอนที่เจ้ายังเป็นเด็ก แล้วข้าก็รับเจ้ามาเลี้ยง เพราะพ่อมดได้ขอร้องข้าไว้ ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่าแท้จริงแล้วเจ้านั้นเป็นกษัตริย์
อาเธอร์จับดาบในมือแน่น
ข้าจะพยายามเป็นกษัตริย์ที่ดีให้ได้อาเธอร์กล่าว
แล้วข้าจะฟังคำของท่านเสมอ เพราะว่าท่านเป็นพ่อของข้า พี่ชายข้า เซอร์เคย์ ท่านเป็นทั้งอัศวินและเป็นเพื่อนคนสำคัญของข้าเช่นกัน
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปหาอาร์คบิชอปแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พวกอัศวินต่างไม่พอใจเพราะไม่คิดว่าอาเธอร์จะเป็นกษัตริย์ที่แท้จริง ดังนั้นอาร์คบิชอปจึงได้เรียกเหล่าอัศวินให้ไปพร้อมหน้ากันที่ก้อนหินนั้นอีกครั้ง
อาเธอร์ปักดาบกลับไปไว้บนหิน อัศวินทุกคนพยายามที่จะดึงมันอีกครั้ง แต่มัน
ไม่ขยับแม้แต่น้อย แล้วเขาก็ได้ประจักษ์แก่ตาว่าอาเธอร์สามารถดึงดาบเล่มนั้นออกมาจากก้อนหินอย่างงายดาย ทุกคนจึงตะโกนกู่ก้องพร้อมกันว่า
อาเธอร์ กษัตริย์ของพวกเรา! อาเธอร์ กษัตริย์ของพวกเรา!”
ต้นฉบับจากบล็อก https://funfunfairytalesbynongmee.blogspot.com/ เท่านั้นค่ะ
ประชาชนมากมายหลั่งใหลมาเพื่อที่จะพบอาเธอร์ พวกเขาทุกคนดูมีความสุข เพราะในที่สุดพวกเขาก็มีกษัตริย์ที่มีคุณธรรมและมีความเอื้อเฟื้อ ทั้งยังแข็งแกร่งและกล้าหาญอีกด้วย
เมอร์ลินได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อแม่ให้อาเธอร์ฟัง
พ่อของเจ้าคือกษัตริย์อูเธอร์ และแม่ของเจ้าก็คือราชินีอิกเกรน เมื่อเจ้ายังเป็นทารกแบเบาะ ข้าพาเจ้าไปที่อาโวลอน สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเวทย์มนต์ เพราะฉะนั้นเจ้าคือคนที่เกิดขึ้นมาด้วยเวทย์มนต์แห่งชีวิต เจ้าจะเป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยม เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน และมีอายุขัยที่ยาวนาน
ต้นฉบับจากบล็อก https://funfunfairytalesbynongmee.blogspot.com/ เท่านั้นค่ะ
ด้วยเหตุนี้ อาเธอร์จึงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะกษัตริย์แห่งอาณาจักร เขาขี่ม้าออกเดินทาง พร้อมด้วยเหล่าอัศวิน และสร้างความเรียบร้อยให้เกิดแก่อาณาจักร พวกเขาได้ต่อสู้กับคนเลวอย่างไร้ความหวั่นเกรง
อาเธอร์ กษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม พร้อมด้วยกองทัพอัศวินที่กล้าหาญ ได้ทำให้อาณาจักรกลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง


  • อ่านตำนานของกษัตริย์อาเธอร์ต่อ :: Part2  ::